Monday, July 25, 2011

My favorite sport!

คำถามหนึ่งที่หลายคนเคยถาม และเคยถูกถาม เวลานั่งดูกีฬาอะไรร่วมกันซักอย่าง นั่นก็คือ "กีฬาที่คุณชื่นชอบคืออะไร" พอบอกไป ก็ต้องเจออีกคำถามว่า "ชอบเล่นมั๊ย" ซึ่งเมื่ออาจารย์เจอคำถามนี้ ก็ได้แต่ถามกลับไปว่า "ชอบดูแต่ไม่ชอบเล่นได้เปล่าคะ" ...เนื่องจากตัวเองเป็นคนที่ไม่มีทักษะใดๆ ทางการกีฬาเอาซะเลย อาจเป็นเพราะว่าได้รับแต่ประสบการณ์ที่ไม่น่าประทับใจก็เป็นได้ เลยทำให้มีความคิดอย่างนี้ แต่ลองดูนะคะ ...เมื่อตอนอายุประมาณ 4-5 ขวบ ไปเล่นน้ำทะเลกับครอบครัว ขนาดว่าถูกจับนั่งอยู่ในห่วงยางริมชายหาด ยังอุตส่าห์เอามือคุ้ยน้ำเล่น จนหัวคะมำเท้าชี้ฟ้า ดื่มน้ำทะเลเข้าไปจนพุงกาง ทำเอาพ่อแม่ใจหายใจคว่ำกันเป็นแถบๆ หลังจากนั้นพอโตขึ้นอีกหน่อยเลยถูกส่งไปเรียนว่ายน้ำ ก็ว่ายได้นะคะ ประมาณว่าว่ายจากฝั่งนึงไปอีกฝั่งนึงได้ แต่มิสามารถไปหยุดลอยคอตุ้บป่องกลางสระได้เหมือนคนอื่นเค้าแค่นั้นเอง...พอตอนอยู่ชั้นมัธยมต้น ได้เรียนบาสเกตบอล แล้วเจอประสบการณ์ถูกลูกบาสกระแทกใส่หน้า (เพิ่งใส่แว่นสายตาใหม่ๆ ด้วย) เจ็บจนลืมไม่ลงเลยจริงๆ ...ตั้งแต่นั้นมา ลากันทีกีฬาทั้งหลาย ไม่ตกวิชาพละก็นับว่าเก่งแล้ว...

จนกระทั่งประมาณปี 1994 ได้มีโอกาสดูการแข่งขันบาสเกตบอล NBA (National Basketball Association) ทางเคเบิลทีวี และก็ติดตามดูเรื่อยมาจนถึงขนาดที่เรียกว่า "คลั่งไคล้" เลยหล่ะ..นักกีฬาและทีมที่สามารถชนะใจอาจารย์ให้หันกลับมาชอบกีฬาได้ ก็คือ Scottie Pippen กับทีม Chicago Bulls นั่นเอง 

ความจริงแล้วในขณะนั้นสภาพของทีม Bulls กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพราะขาดนักกีฬาตัวเก่ง Michael Jordan ที่ประกาศเลิกเล่นไป ทั้งๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงรุ่งเรืองสุดสุดของอาชีพ เพราะนำทีมคว้าแชมป์ NBA ได้ติดต่อกันถึงสามปีซ้อน (Three-peat) ในปี 1991-1993...นักกีฬาที่เหลือจึงต้องร่วมกันพาทีมฝ่าฟันต่อกรกับทีมอื่นๆ โดยมีตารางการแข่งขันที่่แน่นเอียดถึง 82 นัด ในฤดูกาลปกติ (Regular Season) ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่อาทิตย์สุดท้ายของเดือนกันยายน เรื่อยไปจนถึงกลางเดือนเมษายน เพื่อหา 16 ทีมที่ดีที่สุดจาก 2 สาย (Eastern Conference กับ Western Conference) เข้ามาแข่งขันกันในรอบชิงแชมป์สาย (Playoffs) เมื่อได้แชมป์ของแต่ละสายแล้ว จึงเข้าสู่รอบชิงแชมป์ NBA (NBA Final) ในช่วงเดือนมิถุนายน หลังจากนั้นจึงปิดฤดูกาลแข่งขัน...คิดดูซิคะว่าผู้เล่นแต่ละคนในทีมจะต้องเหน็ดเหนื่อยขนาดไหน ไหนจะต้องเหน็ดเหนื่อยจากการตะเวณแข่งขันแบบเหย้า-เยือน กลับทีมต่างๆ ทั่วประเทศ ไหนจะต้องทนแบกรับความคาดหวังและคำสบประมาทที่ว่า เมื่อทีม Bulls ไม่มี Micheal Jordan แล้ว ก็หมดสภาพเลยหรือ ...

การต่อสู้ของ Scottie Pippen กับเพื่อนร่วมทีม Chicago Bulls ในช่วงเวลานั้นชนะใจอาจารย์สุดสุด ความทุ่มเท ความพยายาม ความสามัคคี ที่นักกีฬาเหล่านี้ได้แสดงออก ทำให้อาจารย์คลั่งไคล้กีฬาบาสเกตบอลอย่างชนิดที่ว่า...ลุกจากที่นอนตอนตี 3 ในช่วงหน้าหนาวของภาคเหนือ หรือยอมลาหยุดงานเพื่อจะดูการถ่ายทอดสดรอบ Final ให้ได้...เป็นเอามากจริงๆ...

ในปี 1995 Micheal Jordan กลับมาลงเล่นให้กับทีม Chicago Bulls อีกครั้ง คราวนี้ยิ่งทำให้อาจารย์เมามันส์กับการดูบาสเกตบอล NBA มากยิ่งขึ้นไปอีก นักกีฬาทุกคนของทีม Bulls ในช่วงเวลานั้นเป็นส่วนผสมที่ลงตัวที่สุดจริงๆ โดยในปีนั้นเอง ทีม Bulls ก็คว้าแชมป์ NBA สมัยที่ 4 มาครองได้สำเร็จ ...คิดดูซิคะว่าแฟน Bulls คนนี้จะมีความสุขกระโดดโลดเต้นซักแค่ไหน...

http://layupdrill.com/2010/04/where-does-scottie-pippen-rank-all-time/

เมื่อเริ่มต้นฤดูกาลแข่งขันอีกครั้งในปี 1996 ทีมแชมป์ Chicago Bulls ได้ไปแข่งขันเปิดฤดูกาลกับทีม Boston Celtics ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะ ตอนนั้นอาจารย์ก็อยู่ที่เมือง Boston มลรัฐ Massachusetts พอดิบพอดี แล้วไม่รู้มาก่อนด้วยว่าทีม Bulls จะไปแข่ง มารู้อีกทีก็ถึงวันแข่งขันแล้ว ...ณ เวลานั้น ตั๋วราคาเท่าไหร่ก็ต้องซื้อแล้วหล่ะค่ะ ...โห จะมีซักกี่ครั้งในชีวิตของเรากันคะที่เราจะได้เห็นนักกีฬาและทีมโปรดของเราตัวเป็นๆ อย่างนี้...และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ค่ะ การเข้าไปนั่งชมในวันนั้น เพราะว่าได้เห็นทั้งลีลาการเล่นของนักกีฬาที่ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาล แล้วยังได้สัมผัสบรรยากาศการแข่งขันในสนามที่สนุกสนานซะจนเราอดไม่ได้ที่จะร่วมส่งเสียงและทำท่าทางต่างๆ เพื่อเชียร์ทีมที่เรารัก ..ความสุขที่ได้รับจากการเชียร์กีฬาที่เรารักมันดีอย่างนี้นี่เอง! ...

เพราะฉะนั้นคำตอบของอาจารย์ต่อคำถามที่ว่า ชื่นชอบกีฬาอะไร คำตอบก็คือ ชอบกีฬาบาสเกตบอลค่ะ ...ชอบแต่ดูนะคะไม่ชอบเล่นค่ะ...

แอบไปหาเกมส์ในวันนั้นมาฝากทุกคนจนได้ด้วยนะคะ




ปล. ทีม Chicago Bulls ได้แชมป์ 3 สมัยติดต่อกันอีกครั้ง (Two Three-peats) ในปี 1995-1997 โดยมีกำลังหลักคือ Michael Jordan, Scottie Pippen และโค้ช Phil Jackson  

http://www.dailyrosetta.com/chicago-bulls-coaching-in-disarray/13520.html

Ref: 

Saturday, July 23, 2011

Finally, You did it!


sendables.jibjab.com

หลังจากให้เวลานิสิตกลับไปสร้างความคุ้นเคยกับเครื่องไม้เครื่องมือในการถ่ายทอดเรื่องราว ผ่านทางเทคโนโลยี Blog ร่วมกับมันสมองและสองมือของแต่ละคนกันแล้ว...สองสัปดาห์ผ่านไป...ในที่สุด นิสิตก็ได้เริ่มทยอยแสดงฝีไม้ลายมือผ่านทางการเขียนถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ออกมาเผยแพร่กันบ้างแล้ว...เชิญเข้าไปติดตามเรื่องราวที่หลากหลาย แตกต่าง แต่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและเป็นกันเอง ของนิสิตปริญญาโท คณะพลศึกษา มศว. ได้ใน Blog List "PE GRADUATE STUDENTS" ทางด้านขวามือนี้เลยค่ะ ..
ปล. นิสิตหลายคนบอกว่าเรื่องราวที่เขียนในบทความตอนแรกๆ ยังอาจหาสาระได้น้อยไปบ้าง ...แต่ทำไงได้คะ มือใหม่หัดขับก็ต้องมีตุปัดตุเป๋กันไปบ้าง เป็นของธรรมดา แต่คาดว่า เรื่องราวที่จะเขียนต่อไปในบทความหลังๆ (ติดตามอ่านต่อไปเรื่อยๆ นะคะ) จะมีความเข้มข้น และให้สาระประโยชน์แก่ผู้อ่านเพิ่มขึ้นได้ไม่มากก็น้อย..อย่างน้อย ณ ขณะนี้ ในฐานะผู้อ่านคนหนึ่ง อาจารย์ก็ได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิต ความสนใจ และประสบการณ์ของนิสิตแต่ละคน ในมุมมองที่ไม่มีอาจารย์คนใดจะหาได้จากในห้องเรียน ...ดังนั้น Blog ของนิสิตแต่ละคนที่เขียนขึ้นมานี้ จึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับอาจารย์ และหวังว่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านคนอื่นๆ ด้วยเช่นกันนะคะ...

Saturday, July 2, 2011

PE VS BLOG

หลังจากที่ได้เปิดตัวชาว PE ให้ได้รู้จักกันมาแล้วในบทความ "สุภาพชน คน PE" ไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

วันนี้เป็นบทความที่สอง ซึ่งอาจารย์ได้มีโอกาสสอนและยกตัวอย่างภาพหนึ่งภาพให้ชาว PE ได้ดู ซึ่งภาพนี้เป็นภาพเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) กับการเรียนการสอนในยุคปัจจุบัน ใน 3 ลักษณะ คือ (ดังภาพ)
Ref: http://www.sanjuan.edu/webpages/jleister/
  • ลักษณะที่ 1  เป็นการใช้ ICT ในการถ่ายทอดความรู้ เป็นลักษณะที่อาจารย์หรือผู้สอนใช้ ICT ในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด และประสบการณ์ต่างๆ ไปยังผู้เรียน 
  • ลักษณะที่ 2  เป็นการใช้ ICT ในการแสวงหาความรู้และเข้าถึงความรู้ หรือพูดง่ายๆ ก็คือว่า ผู้เรียนใช้ ICT ในการศึกษาค้นคว้าและเข้าถึงข้อมูลความรู้ต่างๆ นั่นเอง
  • ลักษณะที่ 3  การใช้ ICT เป็นเครื่องมือและช่องทางในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
จากภาพแสดงให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่า การเรียนรู้ในยุคใหม่นี้ ผู้เรียนจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบทบาทของตนเอง จากการเป็นผู้รับความรู้อย่างเดียว มาเป็นทั้งผู้แสวงหาความรู้ ผู้สร้างความรู้ ผู้เผยแพร่ความรู้ ผ่านทางการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้เกิดสังคมแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันในที่สุด

ดังนั้น เมื่อถึงคราวที่ชาว PE จักต้องปรับเปลี่ยนบทบาทของตนเองจากการโลดแล่นอยู่กลางแจ้ง เข้าสู่สมรภูมิแห่งการเรียนรู้ที่ต้องปรับเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้แสวงหาความรู้ เป็นผู้สร้าง และเผยแพร่ความรู้ อาจารย์จึงแนะนำให้ใช้ Blog มาเป็นเครื่องมือช่วย ...ทั้งอาจารย์และนิสิตชาว PE ทั้งหลาย จึงต้องเข้าสู่ช่วงแห่งการศึกษา ค้นคว้า กันอย่างหนัก สังเกตได้จากสีหน้าของนิสิตทั้งหลายได้


ชาว PE ทั้งหลาย ตอนกำลังลงมือฝึกปฏิบัติกับโปรแกรมใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ก็ทำหน้ามุ่ย หน้าเครียด ส่งเสียงซักถามกันเป็นแถว แต่เมื่อทำได้ สีหน้าท่าทางที่แสดงออกก็ทำให้อาจารย์ยิ้มได้ เพราะทำหน้าตาถูกอกถูกใจกันเหลือหลาย เริ่มคันไม้คันมืออยากเขียนเล่าเรื่องราวต่างๆ กันแล้ว ....BLOG ก็ BLOG เถอะ ชาว PE พร้อมลุย!!!!


ไว้เรามาิติดตามดูความก้าวหน้ากันอีก 1-2 อาทิตย์ข้างหน้านี้นะคะ ว่าชาว PE ทั้งหลายจะมีอะไรมาเล่าสู่กันฟังบ้าง  :D

Ref: http://www.sanjuan.edu/webpages/jleister/

Popular Posts

Followers